Toffler
1980 กล่าวถึงพัฒนาการทางสังคมมนุษย์จากสังคมเกษตรกรรมมาสู่สังคมอุตสาหกรรมและสังคมสารสนเทศ
พัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศเรียกกันในชั้นแรกว่าสังคมสารสนเทศต่อมาผู้คนในสังคมที่มีปัญญาสามารถจัดการความรู้ได้สังคมสารสนเทศก็กลายเป็นสังคมฐานความรู้การพัฒนาเทคโนโลยีไร้สายเป็นผลให้แนวทางในการจัดการศึกษาจำเป็นต้องให้สมาชิกในสังคมให้พร้อมรับสังคมฐานความรู้
การศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางที่กล่าวกันในการจัดการศึกษานั้น
ต้องเกิดจากความเข้าใจผู้เรียนและสภาพแวดล้อมของผู้เรียน เพื่อสร้างกิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับศักยภาพของผู้เรียนและองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องเช่นการจัดกระบวนการเรียนรู้
สื่อในการเรียนรู้การศึกษาทฤษฎี Social constructivismมีความเหมาะสมมากสำหรับสังคมสารสนเทศโดยเฉพาะสังคมฐานความรู้เนื่องจากผู้เรียนสามารถเรียนรู้เรื่องต่างๆจากแหล่งความรู้ที่หลากหลายหากโดยเฉพาะสังคมฐานความรู้
เนื่องจากผู้เรียนสามารถเรียนรู้เรื่องต่างๆจากแหล่งความรู้ที่หลากหลาย
หากสถานศึกษาจัดสภาวะแวดล้อมให้สามารถเข้าถึงแหล่งเรียนรู้จากเครือข่ายสารสนเทศ
สุดาพร ลักษณียนาวิน 2550 ได้เสนอกระบวนการเรียนการสอนตามแนวทฤษฎีการสานสร้างความรู้จากสังคมดังนี้
ทฤษฎี
|
วิธีการเรียนการสอน
|
เครื่องมือและสภาพกายภาพ
|
การสานสร้างความรู้จากสังคม
|
การเรียนรู้แบบปัญญาเป็นฐาน
การเรียนรู้แบบพลังงานเป็นฐาน
การเรียนรู้แบบเชิงรุก
การเรียนรู้วิจัยเป็นฐาน
การเรียนรู้แบบทีมเป็นฐาน
การเรียนรู้แบบเพื่อนช่วยเพื่อน
|
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
เครือข่ายออนไลน์
วิกิเทคโนโลยี
ห้องเรียนไร้โต๊ะ
แนวใหม่
|
การศึกษาตามแนวทฤษฎีการสานสร้างความรู้จากสังคม หลักสูตรจะเป็นตัวกำหนดสิ่งที่จะเรียนรู้โรงเรียนและผู้สอนจะกำกับการเรียนรู้
เรียนและผู้สอนจะช่วยกันคิดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับสภาพสังคม
วิธีการเรียนการสอนแบบนี้ต้องรวมพลังในการสอนทั้งการเตรียมการ
เวลาในการค้นคว้าหาข้อมูล
เวลาในการทำกิจกรรมและเวลาที่ต้องมีให้แก่กันระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียนและผู้เรียนกับผู้สอน
เป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต
กิจกรรมการเรียนเป็นเรื่องที่ผู้เรียนเป็นผู้กำกับดูแลเองผู้เรียนเป็นผู้สารสร้างความรู้ในบริบทของคำถามและโจทย์ที่มีให้ตอบไม่รู้จบ
เครื่องมือและสภาพทางกายภาพของห้องเรียน
มีการออกแบบห้องเรียนที่ช่วยให้ผู้เรียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสื่อกับเพื่อนและกับผู้สอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น