วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

จุดมุ่งหมายการศึกษาของบลูม




Bloom และคณะ (1956) ได้จัดกลุ่มการเรียนรู้ออกเป็นสามประเภท คือ ด้านพุทธพิสัย ด้านทักษะ พิสัย และด้านพิสัย พุทธพิสัยรวมถึงการเรียนรู้และการประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะพิสัยรวมถึงการพัฒนาเสรีทางกายและทักษะที่ต้องการใช้กล้ามเนื้อสัมพันธ์กับประสาทจิตพิสัยเกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งเจตคติ ความซาบซึ้งและค่านิยม การเรียนรู้ทั้งสามประการนี้ควรได้รับการพิจารณาในการวางแผนผลที่ได้รับ จากการเรียนรู้ที่ได้จากการเรียนการสอน ในการที่จะประสบผลสำเร็จตามจุดหมายของการศึกษา ขอบเขต การเรียนรู้ทั่งสามนี้ต้องได้รับการบูรณาการเข้าไว้ในทุกลักษณะของการเรียนการสอนและการพัฒนา หลักสูตรซึ่งจะทำให้ผู้เรียนกลายเป็นจุดโฟกัสของกระบวนการเรียนการสอนการเรียนรู้ ดังภาพประกอบที่ 3



ภาพประกอบที่ 3 บูรณาการของพุทธพิสัย ทักษะพิสัย และจิตพิสัย

อนุกรมภิธาน เป็นระบบของการแยกแยะบางสิ่งบางอย่าง ดังนั้น อนุกรมภิธานของการศึกษา จึงแยกแยะพฤติกรรมที่นักเรียนสามารถคาดหวังที่จะทำให้ได้ภายหลังจากที่ได้เรียนรู้แล้ว อนุกรมภิธาน เป็นที่รู้จักกันมากที่สุด คือ อนุกรมภิธานด้านพุทธิพิสัยของบลูมและคณะ
พุทธิพิสัย รวมถึง ความรู้ ความเข้าใจการนําไปประยุกต์ใช้การวิเคราะห์ การสังเคราะห์และ การประเมินค่า พุทธิพิสัยแต่ละประเภทในอนุกรมภิธานประกอบด้วยองค์ประกอบบางประการของประเภท ความรู้ที่ต้องมาก่อนอนุกรมภิธานนี้มีประโยชน์สําหรับการออกแบบหลักสูตรและการสร้างแบบทดสอบ



ตารางที่ 1 อนุกรมภิธานทางปัญญาของบลูม

ระดับพฤติกรรม
นิยาม
1.ความรู้
เกี่ยวข้องกับความจำ และการระลึกได้ของข้อความจริงเฉพาะคำต่าง ๆ สัญลักษณ์ วันที่ สถานที่ ฯลฯ กฎ แนวโน้ม ประเภท วิธีการ ฯลฯ
หลักการ ทฤษฎี วิธีการจัดความคิด
2.ความเข้าใจ
เข้าใจ เกี่ยวข้องกับความสามารถที่จะใช้ การเรียนรู้ แปลความ สรุปความ ตีความ
ย่อความ ขยายรายละเอียด ทำนายผล และผลที่ติดตามมา
3.การนำไปประยุกต์ใช้
เกี่ยวข้องกับความสามารถที่จะใช้ในการเรียนรู้ที่หลากหลายสถานการณ์การใช้
หลักการและทฤษฎีการใช้ความเป็นนามธรรม
4. การวิเคราะห์
เกี่ยวข้องกับการแตกส่วนใหญ่ให้เป็นส่วนย่อยระบุหรือแยกส่วนของ องค์ประกอบค้นพบปฏิสัมพันธ์หรือความสัมพันธ์ระหว่างส่วนย่อยเชื่อมโยง
ความสัมพันธ์ของหลักการ
5. การสังเคราะห์
เกี่ยวข้องกับการผสมผสานองค์ประกอบเข้าด้วยกันเป็นสิ่งใหม่ระบุและเชื่อมโยง องค์ประกอบต่าง ๆ เข้าด้วยกันเป็นการใหม่ๆ จัดการผสมผสานส่วนย่อยต่าง ๆ  เข้า ด้วยกันสร้างสิ่งใหม่ขึ้น
6. การประเมินค่า
เกี่ยวข้องกับการพิจารณาคุณค่าของวัตถุและวิธีการ พิจารณาในรูปของมาตรฐาน
ภายในพิจารณาในรูปของมาตรฐานภายนอก


ตารางที่ 2 อนุกรมภิธานทางเจตคติของบลูม

ระดับพฤติกรรม
นิยาม
1.การรับรู้
เกี่ยวข้องกับความตั้งใจทางอ้อมที่มีสิ่งกระตุ้น การรับรู้ข้อความจริง ความถูกต้องเหตุการณ์หรือโอกาส ความตั้งในการสังเกต หรือ ความตั้งใจที่มีต่อภาระงาน เลือกสิ่งกระตุ้น
2. การตอบสนอง
เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งกระตุ้น การยินยอมตามทิศทาง การอาสาสมัครด้วยตนเอง ความพึ่งพอใจหรือความร่าเริง
3.ค่านิยม
การให้คุณค่ากับบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวข้องกับการแสดงพฤติกรรมที่สอดคล้องแสดงออกถึงความเชื่ออย่างแข็งขันในบางสิ่งบางอย่าง แสดงออกถึงความชอบมากกว่าในบางสิ่งบางอย่าง แสวงหากิจกรรมเพื่อบางสิ่งบางอย่างข้างหน้า
4.การจัดการ
เป็นการจัดคุณค่าให้มีระบบ เห็นคุณค่าที่ยึดถือมีความสัมพันธ์กับคุณค่าอื่นๆก่อตั้งคุณค่าที่มีลักษณะเด่น เป็นค่านิยมของตนเอง
5. คุณลักษณะ
เป็นการกระทำที่สอดคล้องกับค่านิยมหรือคุณค่าภายใน การกระทำที่สอดคล้องในทิศทางที่มีความแน่ใจ การพัฒนาปรัชญาชีวิตที่มีความคงเส้นคงวา



ตารางที่ 3 อนุกรมภิธานทางทักษะพิสัย




พิสัย การเรียนรู้ทางเจตคติพาดพิงถึงคุณลักษณะของอารมณ์ของการเรียนรู้ เกี่ยวข้องการว่านักเรียนรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับประสบการณ์การเรียนรู้ รู้สึกอย่างไรกับการเรียนรู้กับตนเอง และเป็นการ พิจารณาความสนใจ ความซาบซึ้ง เจตคติค่านิยมและคุณลักษณะของผู้เรียน
ทักษะพิสัย เกี่ยวข้องกับทางร่างกายหรือทักษะทางประสาทและกล้ามเนื้อสัมพันธ์กัน ในการเฝ้าดูการเรียนรู้ที่จะเดินก็จะเกิดความคิดว่ามนุษย์เรียนรู้ทักษะการเคลื่อนไหวอย่างไร เมื่อเด็กได้รับ ความคิดว่าต้องการอะไร และมีทักษะที่ต้องมีมาก่อนมีความแข็งแรง และวุฒิภาวะและอื่น ๆ เด็กจะพยายามมี ความหยาบๆ ซึ่งจะค่อยๆ แก้ไขผ่านข้อมูลกลับย้อนมาจากสิ่งแวดล้อม เช่น ธรณีประตู การหกล้ม พรม ผู้ปกครอง และสุดท้าย ทักษะการแสดงออกซึ่งมีคุณค่าต่อวัยเด็กเตาะแตะนั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บล็อกนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา การจัดการการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิจิตรา ธงพานิช  ผู้จั...