บทที่ 4
การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล
(Universal
Design for Instruction)
U
: การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล (Universal Design for
Instruction UDI) เป็นการ
ออกแบบการสอนที่ผู้สอนมีบทบาทเป็นผู้ดําเนินการเชิงรุก (proactive-การกระทําโดยไม่ต้องมีสิ่งใดมากระตุ้น)
เสี่ยวกับการผลิตและหรือจัดหาจัดทําหรือชี้แนะผลิตภัณฑ์การศึกษา (educational
products (computers, websites, Software, textbooks, and lab equipment) และสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้(dormitories, classrooms, student union
buildings, libraries, and distance learning courses) ที่จะระบุถึงในทุกขั้นตอนของการเรียนการสอน
การออกแบบการเรียนการสอนนําความรู้จากหลายสาขาวิชามาประยุกต์เข้าด้วยกันเป็นขั้นตอน
กระบวนการเชิงระบบเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน
โดยพื้นฐานแล้ววิธีการเชิงระบบกําหนดให้ต้องระบุว่า จะเรียนอะไร
วางแผนการสอนว่าจะยอมให้การเรียนรู้อะไรเกิดขึ้น วัดผลการเรียนรู้เพื่อตัดสินว่า
การเรียนรู้ นั้นบรรลุตามจุดประสงค์หรือไม่และกลั่นกรองตัวสอดแทรก (intervention)
จนกระทั่งบรรลุจุดประสงค์ จาก
ลักษณะนี้เองจึงทําให้เกิดแบบจําลองการออกแบบการเรียนการสอนทั่วไป (generic
Instruction Design model : ID model) ขึ้น (Gibbons 1981 :
5, Hannum and Hansen, 1989)
เกี่ยวกับระบบการเรียนการสอนนี้ แฮนน้มและบริกส์ (Harnum and
Briggs) ได้เปรียบเทียบการ เรียนการสอนแบบดั้งเดิม
และการเรียนการสอนเชิงระบบ ดังรายละเอียดในตารางที่ 11
ในการออกแบบการเรียนการสอน กระบวนการมีความสําคัญพอๆ กับผลิตผล
เพราะว่าความ เชื่อมั่นในผลิตผลจะขึ้นอยู่กับกระบวนการ
ในการที่จะมีความเชื่อมั่นในผลิตผล ต้องดําเนินตามขั้นตอนของ
แบบจําลองการออกแบบการเรียนการสอน สําหรับในแต่ละขั้นตอนนั้น
ลําดับขั้นตอนของแบบจําลองการ ออกแบบการเรียนการสอน สําหรับในแต่ละขั้นตอนนั้น
ลําดับขั้นของภาระงานจะต้องแสดงออกมา และผลที่
ได้รับที่มีความเฉพาะเป็นพิเศษก็จะเกิดขึ้นดังรายละเอียดในตารางที่ 11
บทบาทของผู้ออกแบบการเรียนการสอน
(designer's
role) สามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่
นําเสนอว่าต้องอาศัยเทคนิค หรือไม่ต้องอาศัยเทคนิค
และขึ้นอยู่กับส่วนประกอบของทีมการออกแบบ เนื้อหาที่ต้องใช้เทคนิคสูง
ผู้ออกแบบจําเป็นต้องให้คําแนะนําในการออกแบบกับผู้ชํานาญการด้านเนื้อหา (content
expert) ถ้าเนื้อหานั้นไม่ต้องใช้เทคนิคที่สูงมากจนเกินไป ผู้ออกแบบก็สามารถจัดทําได้อย่างอิสระ
มากขึ้นด้วยความช่วยเหลือของผู้ชํานาญการด้านเนื้อหา
ผู้ออกแบบสามารถที่จะทํางานเป็นผู้ให้คําปรึกษาจาก ภายนอก
และรับผิดชอบภาระงานทั้งหมด เหมือนกับเป็นคนในสํานักงาน (in-house
employers) ซึ่งได้รับ
ความช่วยเหลือจากผู้ชํานาญการด้านเนื้อหา
บทบาทของผู้ออกแบบสามารถมีได้หลากหลาย
ความสัมพันธ์ที่มีต่อผู้ชํานาญการด้านเนื้อหา
บทบาทของผู้ออกแบบสามารถมีได้หลากหลาย ขึ้นอ
ความสัมพันธ์ที่มีต่อผู้ชํานาญการด้านเนื้อหาวิชา ดังตัวอย่างทั้งสาม (Seels and Glasgow, 1990 : 7-9 คือ
1. ผู้ชํานาญการด้านเนื้อหาและมีสมรรถภาพในการออกแบบการเรียนการสอนและเทคโนโ
และเป็นผู้ที่รู้บทบาทของการออกแบบด้วย
ไม่จําเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือด้านความรู้ ความชํานาญทาง เนื้อหาวิชา
2. ผู้ออกแบบการเรียนการสอน
ที่ได้รับการร้องขอให้ทํางานในด้านเนื้อหาที่อาจจะ ความคุ้นเคย แต่ผู้ออกแบบยังคงรู้สึกมีความจําเป็นที่จะทํางานกับผู้ชํานาญการด้านเนื้อหา
3. ผู้ออกแบบอาจจะได้รับการร้องขอให้พัฒนาหรือวิจัยในด้านเนื้อหาที่ไม่มีความคุ้นเคย
และ ดังนั้นจึงจําเป็นต้องเลือกและทํางานกับผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาจํานวนมาก
ตารางที่ 11 เปรียบเทียบการเรียนการสอนแบบดั้งเดิมกับการเรียนการสอนเชิงระบบ
องค์ประกอบของการเรียน
การเรียนการสอน
|
การเรียนการสอน
แบบดั้งเดิม
|
การเรียนการสอน
การสอน
เชิงระบบ
|
1. กําหนดเป้าประสงค์(Setting
goals)
|
ตําราหลักสูตรดั้งเดิมการอ้างอิงภายใน
|
การประเมินความต้องการจําเป็นการวิเคราะห์งาน
การอ้างอิงภายนอก
|
2. จุดประสงค์ (Objectives)
|
กล่าวในรูปของผลที่ได้รับรวมๆ
หรือการปฏิบัติของครู
เหมือนกันสําหรับนักเรียนทุกคน
|
จากการประเมินความต้องการจําเป็นการวิเคราะห์/การประเมินงาน
เลือกด้วยการพิจารณาจาก
ความสามารถของผู้เรียนเมื่อแรกเข้าเรียน
|
3.จุดประสงค์ในความรู้
เฉพาะของผู้เรียน (Student's knowledge of objectives)
|
ไม่ได้รับการบอกกล่าวล่วงหน้า
ต้องใช้สัญญาณจากการฟังคำ บรรยายและการอ่านตํารา
|
บอกกล่าวอย่างเฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษ
ล่วงหน้าก่อนเรียน
|
4.ความสามารถก่อนเข้าเรียน (Entering
capability
|
ไม่ต้องใส่ใจ นักเรียนทุกคนมี จุดประสงค์และวัสดุอุปกรณ์/
กิจกรรมเหมือนกันหมด
|
พิจารณา
การกําหนดวัสดุอุปกรณ์/กิจกรรมแตกต่างกัน
|
5. ผลสัมฤทธิ์ที่คาดหวัง
(Expected achievement)
|
ใช้โค้งมาตรฐาน
|
มีความเป็นแบบอย่างเดียวกันสูง
|
องค์ประกอบของการเรียน
การสอน
|
การเรียนการสอน
แบบดั้งเดิม
|
การเรียนการสอน
เชิงระบบ
|
|||
6.ความรอบรู้ (Mastery)
|
นักเรียนส่วนน้อยรอบรู้
จุดประสงค์ทั้งหมด
รูปแบบผิดพลาด
|
นักเรียนส่วนใหญ่รอบรู้จุดประสงค์ทั้งหมด
|
|||
7.ระดับและการเลื่อน
ระดับ (Grading and promotion)
|
อยู่บนพื้นฐานการเปรียบเทียบกับนักเรียนคนอื่นๆ
|
อยู่บนพื้นฐานการรอบรู้จุดประสงค์
|
|||
8. การสอนเสริม
(Remediation)
|
“บ่อยครั้งที่ไม่มีการวางแผน
ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
จุดประสงค์หรือวิธีการเรียน การสอน
|
วางแผนสําหรับนักเรียนที่ต้องการความ
ช่วยเหลือแสวงหาจุดประสงค์อื่นๆ เลือก วิธีการเรียนการสอน
|
|||
9. การใช้แบบทคสอบ
|
กําหนดค่าระคับ
|
เฝ้าระวังติดตามความก้าวหน้าของผู้เรียน
ตัดสินความรอบรู้
วินิจฉัยความยากลําบาก
ปรับปรุงการเรียนการสอน
|
|||
10. เวลาศึกษากับความรอบ (Stidy time vs mastery)
|
เวลาคงที่ :
ระดับของความรอบ
รู้หลากหลาย แตกต่างกัน
|
“ความรอบรู้คงที่
:เวลาหลากหลายแตกต่างกัน
|
|||
11.การตีความของความ ล้มเหลวที่จะไปให้ถึงความรู้
(Interpretation of failure to
reach
mastery)
|
นักเรียนผู้ส่ง
|
มีความต้องการจําเป็นที่จะต้อง
ปรับปรุงการเรียนการสอน
|
|||
12. การพัฒนารายวิชา (Course of development)
|
เลือกวัสดุอุปกรณ์ก่อน
|
ระบุจุดประสงค์ก่อนแล้วจึงจะ
เลือกวัสดุอุปกรณ์
|
|||
13. ลําดับขั้นตอน (Sequence)
|
อยู่บนพื้นฐานของเหตุผลและ
สังเขปหัวเรื่อง
|
“อยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่ต้องรู้ก่อน ตามความจําเป็น
และหลักการของการเรียนรู้
|
|||
องค์ประกอบของการเรียน
การสอน
|
การเรียนการสอน
แบบดั้งเดิม
|
การเรียนการสอน
เชิงระบบ
|
|||
14. การปรับปรุงการเรียน
การสอนและวัสดุอุปกรณ์ (Revision of instructional and materials)
|
อยู่บนพื้นฐานของการคาดแคา งาน
หรือความเพียงพอ
วัสดุอุปกรณ์ใหม่
เกิดขึ้นเปนพักๆ
|
อยู่บนพื้นฐานของการประเมินข้อมูล
เกิดขึ้นเป็นประจํา
|
|||
15. กลยุทธ์การเรียนการสอน
(Instructional Strategies)
|
พอใจให้ผ่านได้อย่างกว้างๆ
อยู่บนพื้นฐานของความชอบ
และความคล้ายคลึง
|
เลือกที่จะให้ได้รับตามจุดประสงค์
ใช้กลยุทธวิธีที่หลากหลาย
อยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีและวิจัย
|
|||
16. การประเมินผล(Evaluation)
|
บ่อยครั้งที่ไม่เกิดขึ้น:
การการวางแผนเป็นระบบน้อย
ประเมินแบบอิงกลุ่ม ข้อมูลได้
จากปัจจัยนําเข้า และ กระบวนการ
|
การวางแผนเป็นระบบ :
เกิดขึ้นประจํา
ประเมินความรอบรู้ตามจุดประสงค์
ประเมินผลอิงเกณฑ์ข้อมูลได้จากผลที่ได้รับ (ผลผลิต)
|
|||
ที่มา
: W.H. Hannum
and leslirj. Briggs, "How does Instructional Systems Design Differ
from Traditional Instruction," Educational Technology 22:12-13. 1982
ตารางที่
12 งานและผลผลิตของกระบวนการออกแบบการเรียนการสอน
ขั้นตอนและภาระ
|
ตัวอย่างภาระงาน
|
ตัวอย่างผลผลิต
|
การวิเคราะห์-กระบวนการของ การนิยามว่าต้องเรียนอะไร
|
ประเมินความต้องการจําเป็น ระบุปัญหา
วิเคราะห์ภาระงาน
|
แฟ้มผู้เรียน
การพรรณนาข้อจํากัด
คำกล่าวของความต้องการจําเป็นและปัญหา
การวิเคราะห์ภาระงาน
|
การออกแบบ-กระบวนการของ
การชี้เฉพาะว่าจะเรียน
|
เขียนจุดประสงค์
พัฒนารายการของแบบทดสอบ
วางแผนการเรียนการสอน
ระบุแหล่งทรัพยากร
|
จุดประสงค์ที่วัดได้กลุทธ์การเรียนการสอน
ลักษณะเฉพาะของตัวแบบ(prototype specification)
|
การพัฒนา-กระบวนการของ
|
ทํางานกับผู้ผลิต
|
สคอร์บอร์ค (story board)
|
ขั้นตอนและภาระงาน
|
ตัวอย่างภาระงาน
|
ตัวอย่างผลผลิค
|
หน้าที่และผลิตวัสดุอุปกรณ์
|
พัฒนาคู่มือ
แผนภูมิ โปรแกรม
|
สคริป
แบบฝึกหัด
คอมพิวเตอร์ช่วยการรัยนการสอน
|
การนำไปใช้-กระบวนการของการก่อตั้งโครงการบริษัทแห่งโลกความจริง
|
การฝึกอบรมครู
การทดลอง
|
การใช้ความเห็นของนักเรียนข้อมูล
|
การประเมิน-กระบวนการของการตกลงใจเกี่ยวกับความเห็นผลผลของการเรียนการสอน
|
บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับเวลา
ผลการแปลความแบบทดสอบ
สำรวจผู้สำเร็จการศึกา
ทบทวนกิจกรรม
|
คำรับรอง (recormmendation)
รายงานโครงการ
ทบทวนตัวแบบ
|
ที่มา: Barbara Seels, and Zita Glasgow, Exercises in
instructional Design (Columbus, Ohio : Merrill Publoshing Company, 1990), p. 8.
นับว่าเป็นเรื่องสําคัญด้วยเหมือนกัน ที่จะให้ความแตกต่างระหว่างบทบาทของผู้วิจัยและผู้ปฏิบัติ
เพราะว่าข้อกําหนดในความสําเร็จของทั้งสองส่วนนี้มีความแตกต่างกัน
ผู้ที่เป็นนักวิจัยสนใจในแต่ละขั้นตอน ของรูปแบบทั่วไป ดังนั้น
ความสนใจและเป้าประสงค์ของผู้ปฏิบัติ (ID
practitioner) จึงแตกต่างออกไป ความสนใจและเป้าประสงค์ที่แตกต่างกัน
ดังแสดงไว้ในตารางที่ 3
ผู้ออกแบบที่เป็นนักปฏิบัติ
สามารถแสดงออกในแต่ละขั้นตอนจากการวิเคราะห์ไปจนถึงการ ทดลอง
ขึ้นอยู่กับว่าจะพรรณนางานว่าอย่างไร ถ้างานของผู้ออกแบบระบุไว้อย่างแคบๆ
แล้วผู้ออกแบบแสดง เพียงสองถึงสามขั้นตอนเท่านั้น โดยละทิ้งขั้นตอนที่เป็นผลิตผล
การนําไปใช้ และการประเมินผล
นักวิจัยการออกแบบการเรียนการสอน (ID remember) หรือผู้เชี่ยวชาญ (specialist)
สนใจศึกษาตัว แปรและพัฒนาทฤษฎีที่สัมพันธ์กับการเรียนการสอน
นักปฏิบัติการออกแบบการเรียนสอน (ID practitioner or generation) สนใจการประยุกต์งานวิจัย และทฤษฎีการพัฒนาการเรียนการสอนและวัสดุอุปกรณ์
บทบาท อื่นๆ ของผู้วิจัยการออกแบบการเรียนการสอนดังแสดงไว้ในตารางที่ 3 ส่วนบทบาทของผู้ปฏิบัติการ ซอกแบบการเรียนการสอนดังแสดงในตารางที่ 13
สาขาวิชาการออกแบบการเรียนการสอน มีอายุประมาณ 30 ปี
เป็นบทบาทของนักวิจัยที่จะส่งเสริม ความงอกงามในทฤษฎีของการออกแบบการเรียนการสอน
และเนื่องจากว่าการออกแบบการเรียนการสอน เป็นสาขาวิชาประยุกต์
บทบาทของนักวิจัยจึงอาจดูเหมือนว่าแยกตัวออกไปตามลําพังและมีความสําคัญน้อย
สิ่งดังกล่าวนี้ไม่เป็นความจริง
เพราะถ้าปราศจากกระบวนการทางทฤษฎีแล้ว สาขา
ความมุ่งหมายของนักออกแบบการเรียนการสอน คือ
ความจําเป็นที่จะต้องรู้ว่าตนสามารถที่จะก้าวไกลได้ หนทางแห่งอาชีพของตนเอง
ถ้ารับรู้วิธีการวิจัยที่เหมาะสมในแต่ละขั้นตอน (Seels and Glasgow, 19990 10)
งานของผู้ปฏิบัติการออกแบบการเรียนการสอนอาจจะหลากหลายในความต้องการค้านความ
ความชํานาญ ผลิตผลที่ได้และสถานการณ์ของงาน
ผู้ปฏิบัติการออกแบบการเรียนการสอนอาจจะวิเคราะห์
ภาระงานภายใต้การนิเทศของผู้จัดการโครงการในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและการพัฒนา
ผู้จัดการ | โครงการอาจจะนําทีมซึ่งพัฒนาการประชุมเชิงปฏิบัติการสามวันสําหรับการอุตสาหกรรม
(three-da Workshop) การออกแบบไม่จําเป็นต้องเป็นทีมเสมอไป
ในองค์กรเล็กๆ อาจจะใช้ผู้ออกแบบเพียงคนเดียว ให้
การทําภาระการออกแบบการเรียนการสอน
ตารางที่
13 เปรียบเทียบความสนใจและเป้าประสงค์ของผู้วิจัยและผู้ปฏิบัติ
แบบจําลองการออกแบบ
การเรียนการสอนทั่วไป
|
บทบาทของผู้วิจัย
|
บทบาทผู้ปฏิบัติ
|
ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์
ขั้นที่ 2 การออกแบบ
ขั้นที่ 3 การพัฒนา
ขั้นที่ 4 การนำไปใช้
ขั้นที่ 5 ประเมินผล
|
ศึกษาวิธีการระบุปัญหา
ศึกษาผลของคุณลักษณะของ ผู้เรียน
ศึกษาเนื้อหา
ศึกษาตัวแปรในการออกแบบข่าวสาร
พัฒนากลวิธีการเรียนการสอน
ศึกษากระบวนการของทีม
ศึกษาชาติวงศ์วรรณาของตัวแปรในสิ่งแวดล้อม
การระบุตัวแปรของการนำไปใช้ให้ได้ผล
ศึกษาข้อถกเถียงที่นำไปสู่การประเมินผล
|
ประยุกต์ใช้วิธีการระบุปัญหา กําหนดคุณลักษณะของผู้เรียน
ใช้การวิจัยในเนื้อหาตามสาขาวิชา
ให้ผู้ปฏิบัติเป็นผู้ออกแบบการเรียนการสอน
ทำงานกับผู้ผลิตในการพัฒนาสคริป
ออกแบบและจัดการสิ่งแวดล้อมและตัวแปรในการเรียนการสอน
ประยุกต์ทฤษฎีการประเมินผล
|
ที่มา
: Barbara Seels,and Zita
Glasgow,Exercises in instrucnal (Columbus, Ohio : Merrill Publoshing Company,
1990), p.8.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น